ทศวรรษ 1950 ถึง 1960 ของ สถานีโทรทัศน์ในฮ่องกง

สถานีโทรทัศน์แห่งแรก(เอทีวี)

ก่อนที่ ทีวีบี จะกลายเป็นสถานีโทรทัศน์ยอดนิยมอันดับหนึ่งในฮ่องกง ก่อนหน้านั้นในประวัติศาสตร์เกาะฮ่องกง ถือว่าช่อง เอทีวี เป็นสถานีโทรทัศน์แห่งแรกที่ก่อตั้งขึ้นมา

โดยก่อนจะก่อตั้งเป็นสถานีโทรทัศน์หลัก แรกเริ่มเป็นสถานีวิทยุเคเบิลมาก่อน โดยมีสาขาอยู่ 7 แห่งทั่วเกาะฮ่องกง ภายใต้ชื่อว่า "สถานีวิทยุกระจายเสียงลี่เต๋อ" (Lai's Voice) ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2492 โดยสาขาหลักดั้งเดิมตั้งอยู่ที่ทางแยกระหว่าง ถนนอาร์เซนอล และ ถนนเฮนเนสซี่ เขตหว่านไจ๋ โดยมีค่าติดตั้ง 25 ดอลลาร์ฮ่องกง, ค่าบริการรายเดือน 9 ดอลลาร์ฮ่องกง และการออกอากาศครั้งแรกเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ถือว่าเป็นสถานีวิทยุเคเบิลเชิงพาณิชย์แห่งแรกในฮ่องกง มีช่องออกอากาศ 2 ช่อง 2 ภาษา ได้แก่ "ช่องสีเงิน (Silver Channel)" ออกอากาศเป็นภาษากวางตุ้งเป็นหลัก และ "ช่องสีฟ้า (Blue Channel)" ออกอากาศเป็นภาษาอังกฤษเป็นหลัก

ในยุครุ่งเรืองของบริการวิทยุของ สถานีวิทยุกระจายเสียง ลี่เต๋อ (Li's Voice) ส่วนใหญ่จะออกอากาศละครวิทยุเป็นหลักรวมถึงหยิบนิยายเรื่องต่าง ๆ มาบรรยายออกอากาศ เป็นการแสดงละครโดยใช้เสียงอย่างเดียว เมื่อไม่มีภาพ จึงต้องขึ้นอยู่กับบทสนทนาโต้ตอบ ดนตรีและเอฟเฟ็กซ์เสียงเพื่อช่วยให้ผู้ฟังจินตนาการถึงตัวละครและนิยายออก ละครวิทยุอาจเป็นละครที่เขียนขึ้นเพื่อออกอากาศทางวิทยุโดยเฉพาะ ละครสารคดี งานบันเทิงคดีที่สร้างเป็นละคร หรือละครที่เดิมเขียนขึ้นเป็นละครเวที[9][10]

นักพากย์ละครวิทยุที่มีชื่อเสียงของทางสถานี ในยุคนั้น ได้แก่

  • เติ้งจี้เฉิน เป็นนักพากย์ที่มีไหวพริบและสามารถพากย์ได้ถึงแปดเสียงที่แตกต่างกันโดยเป็นเสียงของเขาเพียงคนเดียวในการแสดงละครวิทยุ จึงได้รับฉายาว่า "ราชาเแห่งความขบขัน"
  • ถันปิ่งเหวิน เป็นหนึ่งในนักพากย์ (ผู้แพร่ภาพกระจายเสียง) ที่ได้รับการยกย่องว่ามีผลงานการพากย์เสียงที่หยั่งรากลึกในจิตใจของผู้คนในฮ่องกงมาเป็นเวลากว่าครึ่งศตวรรษ ฉายาของเขาบางสื่อเรียกคือ "เจ้าพ่อนักพากย์เสียง" และมีบางสื่อขนานนามเขาว่า "ราชานักพากย์เสียงคิง" นอกจากนี้ เขายังเป็นผู้บรรยายการแข่งม้าคนแรกในฮ่องกง อีกด้วย

นอกจากนั้นยังมีนักพากย์ท่านอื่นที่โดดเด่น เช่น เหอเซี่ยหนิง, เกาเหลียง, จงเหว่ยหมิง, เซียวเซียง, หลี่ผิงฟู่ และ หลี่อี้ เป็นต้น

ละครวิทยุเหล่านี้ยังได้ออกอากาศเป็นภาษาท้องถิ่นทั้งในสิงคโปร์และกัวลาลัมเปอร์ซึ่งเป็นที่นิยมอย่างมากอีกด้วย[11]

จนต่อมาในเดือนเมษายน พ.ศ. 2500 รัฐบาลฮ่องกงภายใต้การปกครองของอังกฤษได้ออกใบอนุญาตให้แก่ สถานีวิทยุลี่เต๋อ (Li's Voice)ให้มีการจัดตั้ง เคเบิลทีวี ได้ ต่อมาจึงก่อตั้งขึ้นเป็นสถานีกระจายเสียงเชิงพาณิชย์หลักในฮ่องกงภายใต้ชื่อว่า "สถานีวิทยุโทรทัศน์ลี่เต๋อ แห่งฮ่องกง" (Li's Voice TV) เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2500 ด้วยทุนจดทะเบียน 4 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง โดยได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรกในฮ่องกง ถือได้ว่า คือ สถานีโทรทัศน์เคเบิลทีวี แห่งแรกในตะวันออกไกล เป็นการเปิดหน้าแรกของประวัติศาสตร์การแพร่ภาพโทรทัศน์ในฮ่องกง ออกอากาศทางเคเบิลโดยให้บริการแพร่ภาพโทรทัศน์ในรูปแบบเพย์ทีวี (Pay Tv) ในช่วงแรกของการก่อตั้งสถานีนั้น มีการให้บริการโดยคิดค่าธรรมเนียม ซึ่งผู้ใช้ส่วนใหญ่จะเป็นครอบครัวที่มีฐานะดีไปจนถึงคนรวยโดยแต่ละรายจะถูกเรียกเก็บค่าบริการรายเดือนรวม 70 ดอลลาร์ฮ่องกงต่อเดือน โดยแยกออกเป็นค่าบริการรายเดือนสำหรับการดูคือ 25 ดอลลาร์ฮ่องกง บวกกับ ค่าเช่าทีวี รายเดือน 45 ดอลลาร์ฮ่องกง เป็นราคาที่สูงมาก สำหรับยุคนั้น เพราะ เงินเดือนของลูกจ้างทั่วไปในฮ่องกงโดยเฉลี่ยเพียง 100 ดอลลาร์ฮ่องกงเท่านั้น ดังนั้นค่าบริการรายเดือนจึงนับได้ว่าแพงมาก อาจเป็นเพราะค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทีวีในเวลานั้นค่อนข้างแพงและประชาชนทั่วไปไม่สามารถจ่ายได้ ดังนั้น "ทีวี" จึงกลายเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่มีไว้สำหรับชนชั้นกลางถึงชนชั้นสูงของฮ่องกงในช่วงเวลานั้นของยุคเคเบิลทีวี ค่าบริการรายเดือนจึงไม่ใช่สิ่งที่ชนชั้นแรงงานในฮ่องกงสามารถจ่ายได้ แรกเริ่มมีผู้เช่าเพียง 640 คน (ในยุครุ่งเรืองของทางสถานีมีผู้เช่าหลายแสนคน)

ตัวอย่างตารางรายการยุคแรก ๆ ในวันที่ออกอากาศ เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม พ.ศ. 2500:

เวลาชื่อโปรแกรม(รายการ)
18:50~19:00ภาพทดสอบ
19:00~19:30เปิดตัว, พิธีเปิด, รายงานรายการ (อย่างละ 10 นาที)
19:30~19:40ประธานบริษัทกล่าวสุนทรพจน์
19:40~19:50ข่าวภาคค่ำและการพยากรณ์อากาศ
19:50~20:00รายการเพื่อการศึกษา
20:00~20:55ภาพยนตร์ฮ่องกง โดยฉายภาพยนตร์ฮ่องกงเก่า ๆ
20:55~21:00ข่าวรอบดึกและการพยากรณ์อากาศ
21:00~21:01พรีวิวรายการพรุ่งนี้ที่ออกอากาศ

รายการทีวีในยุคแรกยังมีรายการไม่มากนัก

ในปีพ.ศ. 2502 ออฟฟิศถูกย้ายไปตั้งสำนักงานที่ "ตึกฟอร์ติส" (Fortis Tower) เขตหว่านไจ๋

วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2505 ได้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง เมื่อไต้ฝุ่นแวนด้าเคลื่อนผ่านฮ่องกง โดยเคลื่อนตัวจากทะเลจีนใต้ด้วยความเร็วลมสูงสุดที่ 175 กม./ชม. (110 ไมล์ต่อชั่วโมง) และได้เคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ฮ่องกง ทำให้เกิดลมกระโชกแรง 261 กม./ชม. (161 ไมล์ต่อชั่วโมง) ร่วมกับมีพายุรุนแรง คลื่นซัดถล่มบ้านพัง 3,000 หลังคาเรือน ชาวบ้านจำนวน 72,000 คนต้องไร้ที่อยู่อาศัยทันที และมีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 434 ราย เรือกว่า 2,000 ลำในเขตอาณานิคมต่างอับปางได้รับความเสียหาย ขณะที่ความเสียหายรุนแรงมากในเกาะฮ่องกง และคาดว่าความเสียหายที่เกิดขึ้นประมาณ 2.6 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง นับได้ว่าเป็นพายุหมุนเขตร้อนที่รุนแรงที่สุดลูกหนึ่งเป็นประวัติศาสตร์ในฮ่องกง ต่อมาทางช่อง "ลี่เต๋อ" ได้ออกอากาศรายการพิเศษ เป็นการระดมทุนครั้งแรกของทางช่องเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย และกลายเป็นต้นแบบของงานการกุศลทางทีวี ที่มีการร้องเพลงและรับบริจาคจากผู้ชมทางบ้าน

ในเดือนธันวาคม ของปีพ.ศ. 2509 สถานีวิทยุโทรทัศน์ลี่เต๋อ ได้เปิดรับสมัครบุคคลเข้าร่วมอบรมหลักสูตรหนึ่งปีการเป็นศิลปินทางโทรทัศน์ขึ้นมาเป็นครั้งแรก (กลายเป็นชั้นเรียนฝึกอบรมศิลปินจอแก้วที่เก่าแก่ที่สุดในฮ่องกง) โดยในตอนนั้นมีผู้สนใจเข้าสมัครนับพันคน แต่ทางช่องคัดเหลือเพียง 9 คนสุดท้าย และหนึ่งในนั้นเป็นผู้สมัครหมายเลข 001 คือ "วังหมิงฉวน"

ต่อมาเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2510 ทางช่อง "ลี่เต๋อ" ได้เปลี่ยนชื่อเป็น "อาร์ทีวี (Rediffusion Television) โดยแบ่งออกสองช่อง คือ RTV-1และ RTV-2 ตามลำดับ ช่วงแรกที่เปิดเป็น สถานีวิทยุโทรทัศน์ ทาง อาร์ทีวี ยังไม่มีละครที่สร้างขึ้นมาเอง และยังต้องนำภาพยนตร์ฝรั่ง, ละครจากต่างประเทศ เข้ามาออนแอร์

ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2511 ได้มีรายการใหม่ต่าง ๆ นำมาออกอากาศทางช่อง อาร์ทีวี เช่น รายวาไรตี้, รายการกีฬา รายการภาพยนตร์ และความบันเทิงอื่นๆ ทำให้ทางช่องมีรายการที่น่าสนใจซึ่งดึงดูดผู้ชมมากขึ้น ยกตัวอย่างรายการที่โดดเด่นที่สุดในขณะนั้นคือ การ์ตูนเรื่อง "สามเกลอแซ่เพี้ยน" (Old Master Q) ในรูปแบบของการ์ตูนที่แสดงถึงวิถีชีวิตของคนจีนตั้งแต่ทศวรรษ 1960 ได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์และนิตยสารในฮ่องกงตั้งแต่ปีพ.ศ. 2505 โดยมีการสร้างเป็นภาพยนตร์กวางตุ้งขาวดำ ฉายวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2508 และยังมีภาคต่อตามมาอีก นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำเทรนด์ในการเข้าซื้อรายการอนิเมะของญี่ปุ่น รวมถึงการ์ตูนญี่ปุ่น เรื่อง เจ้าหนูปรมาณู ที่ตีพิมพ์ครั้งแรกตั้งแต่ พ.ศ. 2495 วาดโดย โอซามุ เท็ตซึกะ และถูกสร้างเป็นอนิเมะฉายทางโทรทัศน์ญี่ปุ่น ระหว่าง พ.ศ. 2506 - พ.ศ. 2509 ได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง และปีนี้ทางช่อง อาร์ทีวี ได้สร้างละครโทรทัศน์ขึ้นมาเป็นของตัวเองเพื่อแข่งขันกับทางช่อง ทีวีบี (ช่องฟรีทีวีที่กำลังได้รับความนิยมกับละครในค่าย) คือเรื่อง "4ใบเถา (四千金 1968)" ซึ่งเป็นผลงานที่ทำให้ วังหมิงฉวน เริ่มเป็นที่รู้จักในฮ่องกง และกลายเป็นดาวรุ่งมาแรงของทางค่ายอาร์ทีวี

ในปีถัดมาพ.ศ. 2512 ทางค่ายอาร์ทีวีก็ให้เธอได้มีโอกาสเล่นภาพยนตร์ เรื่อง เพลงรัก...ดอกโบตั๋น (Singing Darlings 1969) ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ฮิตในฮ่องกง พอสิ้นปีเธอก็ได้รับรางวัล 10 นักแสดงยอดนิยมสูงสุดประจำปีมาครอง ด้วยความสำเร็จทางด้านภาพยนตร์ทำให้ต่อมาในปีพ.ศ. 2513 เธอได้มีผลงานภาพยนตร์ตามมาอีกเรื่อง คือ บ้านสาวโสด (小姐不在家 1970) หลังจากเรื่องนี้เธอก็หมดสัญญากับทางค่ายอาร์ทีวี และไปเรียนการแสดงที่ญี่ปุ่น หลังจากเรียนจบ เธอได้เดินทางกลับมายังเกาะฮ่องกง และไปเป็นนักแสดงในสังกัดของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี

และวันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2516 อาร์ทีวี เปลี่ยนระบบจากเพย์ทีวี เป็น ฟรีทีวี เพื่อการออกอากาศแข่งขันกับทางช่อง ทีวีบี ที่เป็นฟรีทีวี มาตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง[12][13][14][15][16][17]

สถานีโทรทัศน์ไร้สาย(ทีวีบี)

ทีวีบี คือ สถานีโทรทัศน์ภาคพื้นดินแห่งที่สองในฮ่องกง และเป็นฟรีทีวีแห่งแรกในฮ่องกงโดยเริ่มออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 ทางบริษัทได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2508 มีเซอร์ รัน รัน ชอว์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานจากปีพ.ศ. 2523 ถึง 2554 เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งทั้งนี้สถานีโทรทัศน์ทีวีบีร่วมกับบริษัทอังกฤษและบริษัทจีนจำนวนหนึ่งในฮ่องกงได้จัดตั้งสมาคมเพื่อจัดตั้งภายใต้ชื่อ สถานีโทรทัศน์ทีวีบี ( TV Broadcasting Co., Ltd. )

วันเกิดของสถานีโทรทัศน์ทีวีบี คือวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 ถือเป็นวันที่ทางทีวีบีให้ความสำคัญมากที่สุด ในทุก ๆ ปี ทางทีวีบีจะนับวันนี้เป็นวันฉลองครบรอบประจำปีมาจนถึงปัจจุบันซึ่งในแต่ละปีนั้นก็จะมีงานกืจกรรมให้ดาราในค่ายมาร่วมโชว์การแสดงต่าง ๆ ให้ผู้ชมทางบ้านได้ดู

หลังเปิดตัวการออกอากาศเพียงหนึ่งวัน ทีวีบีได้เปิดตัวรายการวาไรตี้โชว์ "วันชื่นคืนสุข" (Happy Tonight) ทันที โดยออกอากาศตอนแรกในวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2510 ทางช่องทีวีบี เวลาตั้งแต่ 21:00 น. ถึง 22:30 น. ทุกคืนวันจันทร์ถึงวันศุกร์ โดยมีทีมรุ่นบุกเบิกของราบการยุคแรก (พิธีกรและนักแสดงโชว์ในรายการ) ได้แก่

1.เฉินฉีซ่ง

2.เหลียงซิ่งโป

3.เสิ่น เตี้ยนเสีย

4. ​​​​พานตีหัว

5. เจิ้งจวินเมียน

6. เซินเซิน

7. ตู้ผิง

8. ซีซิ่วลั้ง

ทั้ง 8 คนเป็นกลุ่มแถวหน้าของรายการรุ่นแรก[18].โดยยุคบุกเบิกในตอนนั้นยังไม่มีการจำกัดเวลาชัดเจน ด้วยเงื่อนไขการผลิตในขณะนั้น รายการจึงมีการถ่ายทอดสดทุกคืนวันธรรมดา และแม้แต่โฆษณาก็ยังออกอากาศในรูปแบบของการแสดงสดโดยศิลปิน ต่อมาหลังจากมีการปรับปรุงเงื่อนไขแล้วการถ่ายทอดสด (Live Show) ก็กลายเป็นวัฒนธรรมประเพณีของรายการทีวี ซึ่งกลายเป็นจุดขายของวาไรตี้ "วันชื่นคืนสุข" (Happy Tonight) เพราะสามารถสะท้อนความชอบของผู้ชมได้แบบเรียลไทม์

ในช่วงแรกของการก่อตั้ง ทีวีบี ยังไม่มีการสร้างละครเป็นของตัวเอง และมีการนำเข้าทั้งละครและหนังจากญี่ปุ่นและอเมริกา มาออนแอร์ออกอากาศ จนต่อมาถึงได้มีการประกาศสร้างละครขึ้นมา

ในปีแรก ๆ ของ ทีวีบี ช่วงที่ยังไม่มีการเปิดรับสมัครอบรมบุคคลากรให้เป็นศิลปินกับทางค่ายโดยตรง ดังนั้นทางช่องจึงมักหยิบยืมใช้นักแสดงภาษากวางตุ้งระดับตัวรอง ๆ ของ ชอว์บราเดอร์ส มาแสดงละครให้กับทางช่อง

ละครเรื่อง "สวรรค์จำพราก" (Dream of Love 1967) 21 ตอนจบ เป็นละครโทรทัศน์เรื่องแรกที่ผลิตขึ้นโดยช่องทีวีบี ออกอากาศเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2510 (ระยะเวลาออนแอร์ในปี พ.ศ. 2510-2511) โดยผู้อำนวยการสร้าง คือ "จงจิงฮุ่ย" ได้ออกอากาศโดยสร้างแบบอย่างให้กับละครโทรทัศน์กวางตุ้ง จนกลายมาเป็นความนิยมของกระแสหลักในรายการทีวีฮ่องกง และเป็นต้นแบบของละครทีวีที่ผลิคในฮ่องกงเอง (เอทีวียังไม่มีละครที่ผลิตเอง)

ใกล้เคียง

สถานี สถานีกลางบางซื่อ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) สถานีกรุงเทพ สถานีบางหว้า สถานีอวกาศนานาชาติ สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี) สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ สถานีวงเวียนใหญ่

แหล่งที่มา

WikiPedia: สถานีโทรทัศน์ในฮ่องกง http://big5.china.com.cn/culture/txt/2007-09/27/co... http://eladies.sina.com.cn/movie/movie/1999-8-11/6... http://www.bbc.com/zhongwen/trad/china/2016/04/160... http://hkmdb.com/db/people/view.mhtml?id=2157&disp... http://yule.sohu.com/00/93/article213029300.shtml http://pdf.sznews.com/hkcd/2000/0411/newsfile/n14-... http://www.am730.com.hk/column-264440 http://www.rthk.org.hk/broadcast75/topic03a.htm http://www.rthk.org.hk/broadcast75/topic03c.htm http://life.sinchew.com.my/node/19990?tid=64